เมื่อกล่าวถึงผักไฮโดรพอนิกส์ อย่างแรกที่คนส่วนใหญ่จะนึกถึงคือ ราคาที่ค่อนข้างสูง (ประมาณ 100-120 บาท/กิโลกรัม) แต่ถึงจะมีราคาที่สูงแต่ปัจจุบันกระแสสังคมที่เปลี่ยนไป ผู้คนหันมาให้ความสนใจในการเลือกซื้ออาหารปลอดภัยเพื่อมาบริโภคมากขึ้น ผักไฮโดรพอนิกส์จึงยังเป็นตัวเลือกต้นๆ ของกลุ่มผู้บริโภคผู้ใส่ใจในคุณภาพของสินค้าซึ่งมีแนวโน้มจะขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ราคาที่สูงก็ยังเป็นข้อจำกัดสำหรับใครหลายๆคนที่มีงบไม่พอแต่อยากบริโภคผักไฮโดรพอนิกส์ แนวทางแก้ไขก็คือ การปลูกผักไฮโดรพอนิกส์กินเองในครัวเรือนซึ่งไม่ยากอย่างที่คิด อีกทั้งยังประหยัด ปลอดภัย ไร้สารพิษ และถือเป็นกิจกรรมเสริมภายในครอบครัวได้อีกด้วย
ผักไฮโดรพอนิกส์ที่มีขายเป็นการค้า มีต้นทุนการผลิตที่สูง เนื่องจากระบบปลูก โรงเรือน คนงาน การขนส่ง ฯลฯ แต่ในกรณีที่เราปลูกกินเองในครัวเรือนแบบง่ายๆปริมาณไม่มาก ต้นทุนหลายๆตัวก็จะถูกตัดไปทำให้ประหยัดมากขึ้น สิ่งสำคัญในการปลูกพืชแบบไฮโดรพอนิกส์นั้น ผู้ปลูกต้องเข้าใจถึงหลักการผลิตก่อน ซึ่งเหมือนกับการปลูกพืชทั่วไป คือการควบคุมและจัดหาปัจจัยต่างๆอาทิ น้ำ อากาศ แสงแดด และ ธาตุอาหาร ให้พืชได้อย่างเหมาะสม ในกรณีที่ปลูกพืชในดิน ดินจะเป็นตัวให้ น้ำ อากาศ และธาตุอาหารกับพืช ดังนั้น เมื่อเราปลูกแบบไม่ใช้ดิน เราก็ต้องจัดหาปัจจัยเหล่านี้ทดแทนให้กับพืช เท่านี้พืชก็สามารถเจริญเติบโตได้โดยไม่ใช้ดิน
วัสดุ อุปกรณ์ และขั้นตอนการผลิตผักไฮโดรโพนิกส์แบบง่ายๆ ในครัวเรือน
ขั้นตอนการผลิตผักไฮโดรพอนิกส์
ส่วนประกอบของระบบ ได้แก่
ราคาประมาณ 2,500 บาท ปลูกได้ 30 ต้น/โต๊ะ
ส่วนประกอบในการผลิต ได้แก่
ราคารวมต่อรอบการผลิต ต่อหนึ่งโต๊ะ = 82 บาท/โต๊ะ/รอบ
(ไม่รวมค่าไฟ ค่าแรงงาน และค่าโรงเรือน)
ปลูกผักไฮโดรพอนิกส์กินเอง ประหยัด ปลอดภัย ไร้สารพิษ |
ไนเตรทสะสมในผักไฮโดรโพนิกส์ |
แนวทางการผลิตผักอินทรีย์ในระบบไฮโดรโพนิกส์ |
โรคของผลไม้หลังเก็บเกี่ยว |
ทำไมเปิดไฟให้ต้นไม้ |
สะแล พืชพื้นบ้านที่มากด้วยคุณค่าทางโภชนาการ |
ความสับสนในสมุนไพรวงศ์ขิง |
Internet of Things สำหรับ Smart Farmer |
บทความทั้งหมด |